แต่มันได้เกิดขึ้นแล้ว และยังคงหลอนในความรู้สึก ทุกครั้งที่คิดถึง
คุณเคยนั่งแท็กซี่กลับบ้านในยามค่ำคืน และนึกหวั่น กับการนั่งอยู่กับคนแปลกหน้า ที่เรียกตัวเองว่า “โชเฟอร์” บ้างไหม ?
ยิ่งคุณเป็นมนุษย์ที่ถูกตีตราแต่กำเนิดว่าเป็น “เพศหญิง”
ที่แม้จะเข้มแข็งอย่างไร แต่โดยสรีระ แพ้ความเป็น “ชาย” อยู่วันยังค่ำ
เหตุเกิดขึ้นในดึกวันหนึ่ง ที่ฉันเหนื่อยอ่อนจากการทำงาน บวกฟิตเนส (สารภาพ)
เกิดอยากให้รางวัลชีวิต “เล็กๆ” ด้วยการนั่งรถ “แท็กซี่” แทนรอคอยรถประจำทาง ที่ชาติหนึ่งจะมาสักคัน ฉันนึก
“แพงกว่า ก็ยอม งานนี้”
แม้จะลังเลอยู่ที่ป้ายรถเมล์สักพัก ตามประสา “คนงก”
แต่สุดท้าย ก็ไม่วาย ตัดใจเปิดประตูรถแท็กซี่ ที่จ่ออยู่หน้าป้ายรถเมล์
และแล้ว ความงก ก็พ่ายแพ้ความเหนื่อยอ่อน จนได้สิน่า !!!
“พี่ไปแยกเทพารักษ์”
โชเฟอร์ พยักหน้า เป็นการเชื้อเชิญให้ขึ้นรถ
พลันที่แท็กซี่ “เขียวเหลือง” ทยานออกจากป้ายรถเมล์
ตามด้วยบทสนทนาแรกของโชเฟอร์ว่า...

“วันนี้มีปล้นติดกัน 3 ครั้งที่ซอยอ่อนนุช ป่านนี้โจรเอาเงินไปนอนกอดสบายฉิบ”
“อ๋อ เหรอ ก็อย่างนี้แหละ เศรษฐกิจไม่ดี” ฉันตอบ
“พี่รีบไหม” โชเฟอร์ รุกต่อ
นาทีนั้น ความคิดผุดขึ้นว่า…
“ฉันแก่อย่างนั้นเชียวหรือ ดันมาเรียกพี่ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เอี้ยวมาดูหน้าฉันสักนิด”
โถ ชีวิตสาวโสด วัย 30 กว่าๆ ฉันตัดพ้อ
นึกในใจต่อว่า…
“รีบสิว่ะ ไม่รีบจะขึ้นรถ---เหรอ”
แต่ตอบกลับไปอย่างสุภาพคำเดียวสั้นๆว่า “รีบ” ตามประสาคนสงวนถ้อยคำ
2 นาทีที่ความเงียบเข้าครอบงำ
ก่อนบทสนทนาของโชเฟอร์จะรุกต่อ เพื่อขอเติมก๊าซเอ็นจีวี และฉันก็ใจอ่อนจนได้
ตามประสาคนขี้เกรงใจ
พวงมาลัยหักเลี้ยวซ้าย เข้าปั๊มเอ็นจีวี
บรรยากาศในปั๊มแห่งนั้น ต้องบอกว่า “นรก” สิ้นดี ฉันนึก
ช่างแตกต่างจากปั๊มน้ำมันปกติ เพราะสถานที่แห่งนั้นมีแต่บรรดาโชเฟอร์แท็กซี่ และเด็กปั๊ม
ที่ออกอาการ “หื่นกาม” อย่างเห็นได้ชัด จินตนาการบรรเจิดบอกตัวเองเช่นนั้น
ทั้งสายตา และท่าทาง ของพวกมัน
ปัญญาชนมีบ้างไหมเนี่ย !!! ฉันตะโกนก้องอยู่ในใจ
นั่งอยู่ในรถอย่างคนหายใจไม่ทั่วท้อง
ใจนึกจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร อย่างไร อย่างไร และอย่างไร
คิดไม่ออกวู้ยยยย
สักพัก เด็กปั๊มคนหนึ่งเดินมา “บีบแตร” รถที่ฉันนั่ง ทำสติฉันกระเจิด กระเจิง
ใจฉันระทึก ตอนนั้นนึกปลอบใจตัวเองว่า เป็นเทคนิคอะไรหรือป่าว
...ที่จะอัดก๊าซลงในถัง !!!
โถ ช่างคิด ตามประสาคนมองโลกในแง่ดี
นั่งอยู่ในรถต่อไป ภาวนา ขออย่าให้เกิดอะไรกับฉัน
โอวว พระเจ้าช่วยกล้วยทอด !!!
สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
ทันทีที่รถพุ่งออกจากปั๊ม
“พี่จอดคาร์ฟูร์” (จริงๆอยากกลับบ้านมากกว่า) ฉันเล่นมุกกับโชเฟอร์ ก่อนจะรู้ตัวว่าคาร์ฟูร์ที่ว่าเลยมาแล้ว
พูดไปเพราะเริ่มขาดสติใคร่ครวญ
จำใจ ใจดีสู้เสือ
“งั้นไปแยกเทพารักษ์เหมือนเดิม”
โชเฟอร์เหมือนจะจับพฤติกรรมฉันออก เพราะฉันโทรศัพท์หาเพื่อนแบบไม่วางสาย บอกปลายสายไปอย่างชัดๆว่า อยู่บนแท็กซี่ แบบ 5 W 1 H (Who What When Where Why How) แม่นเปรี๊ยะตามประสาคนข่าว
พลางบอกโชเฟอร์นรก ให้เข้าเลนใน ใจนึกอย่างน้อยก็ “บล็อก” ไม่ให้เลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยวข้างหน้า
สุดท้ายก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย
สูดดดด.... หายใจเข้า-ออกลึกๆอย่างโล่งอก
!? !? !? !? !?
เมื่อมีเวลานั่งย้อนเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมาอย่างไม่แล้วใจ
คิดไปเองรึป่าว สติแตกไปเองรึป่าว มั่วไปเองรึป่าว
ตอบตัวเองว่า…
มันคือ “เกมชิงไหวชิงพริบ” ระหว่างฉันกับโชเฟอร์
ที่มี “นาทีชีวิต” (ของฉัน) เป็นเดิมพัน
บ้าฉิบ...
ถ้า (มัน) ชิงลงมือก่อน ตูคงแย่
แต่ฉันรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
อ๋ออออออออ อย่างนี้นี่เอง ปัดโธ่ !!!
ฉันเรียกสติคืนมา เมื่อนึกถึงราคาเอ็นจีวี รำลึกวิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถม เริ่มคำนวณราคา
“เอ็นจีวี กก.8.50 บาท เติมเต็มที่ 20 กก.ตามน้ำหนักบรรทุก ราคาก๊าซเต็มถังอย่างเก่งก็ไม่เกิน 200”
แม่เจ้า !!! หัวจ่ายก๊าซที่ฉันเห็นเมื่อกี้ ทยานไปพันกว่าบาท ด้วยขนาดบรรจุราว 45 ลิตร
เสียรู้ๆ เปราะแรก ฉันทบทวน
แล้วบีบแตร ทำไมฟ่ะ ฉันนึก
อ๋อออออ เสียรู้เปราะที่สอง
ที่แท้มันคือ “แตรมรณะ” ที่เด็กปั๊มบีบเป็นสัญญาณ เพื่อเรียกพรรคพวกมาดู “เหยื่อ” รายใหม่ อย่างฉัน
ที่ถูก “ล้อมกรอบ” จากบรรดาเด็กปั๊ม ในเชิงกระหยิ่มยิ้มย่อง
สายตาพวกมัน อ่านความหมายได้ว่า…เสร็จตูแน่ๆ
ไม่มีกลไกแมคคานิกใดที่จะตอบสมมติฐานเดิมของฉัน
“บีบแตร” เพื่อเพิ่มขนาดบรรจุก๊าซ
ตัวสั่นกว่าเดิม ถามตัวเองว่ารอดมาได้อย่างไร
นี่คือ…
พฤติกรรมตามประสาคนงก คนสงวนถ้อยคำ คนขี้เกรงใจ และคนมองโลกในแง่ดี
ที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ
โชคดีที่ฉันยังประคองตัวเองกลับมาได้
อย่างคนมีใบหน้าเป็นอาวุธ
สงสัยโชเฟอร์กลัวได้ไม่คุ้มเสีย
งานนี้ตลกไม่ออกจริงๆ
“แท็กซี่ กับ ฉัน” คงเป็นอริกันไปอีกนานแสนนาน
นายสติ บอกกับฉันเช่นนั้น
ถ่ายรูปแท็กซี่ทุกคันที่ขึ้น แล้วส่ง MMS มาดิ
ตอบลบแนะนำๆ เพราะบางทีก็คงต้องขึ้นมั่งใช่ปะ