วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สวรรค์บนพื้นพิภพ

(พ.ค.52)

ชื่อเรื่องดูอลังฯ ชวนให้นึกถึงหนังกำลังภายใน แต่จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจ ปนความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยล่ะ

วันหนึ่งมีมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง กำลังเบื่อๆเซ็งๆ กับวิถีชีวิตรูทีน เช้ามาก็ต้องไปทำงาน ระหว่างที่เดินเหม่อๆ ไร้ชีวิตจิตใจ จากบ้านเกือบถึงหน้าปากซอย เพื่อต่อรถไปทำงาน อีก สอง สาม ต่อ กว่าจะถึงที่ทำงาน

แย่จัง รถก็ไม่มีรถขับอย่างเค้า (เศร้า ฉิบ) มนุษย์เงินเดือน สบถ

อีกไม่ถึง 30 ก้าวจะถึงเส้นชัย (หน้าปากซอย) กีฬาเดินเร็วที่ทำท่าจะชนะอยู่ลอมล่อ เธอก็ต้องมาสะดุดกึ๊ก กับ กลุ่มคำ ที่ว่า

“สวรรค์บนพื้นพิภพ"

สาบานได้ว่า เขียนอย่างนี้ ไม่ใช่ สวรรค์เบี่ยง สวรรค์ตกคู หรือ ไม่มีสวรรค์ สำหรับคุณ สำหรับคุณสวรรค์ไม่มี ฯลฯ อะไรทั้งนั้น เธอบอกกับตัวเอง

มันก็แค่กลุ่มคำ กลุ่มคำหนึ่ง (เท่านั้น) ทำไมมันบาดใจ จนทำให้เธอก้าวไม่ออก เพราะสมองไม่สั่งการ มัวแต่ไปคิดถึงกลุ่มคำที่ว่านั้น

แต่ด้วยเพราะกลัวเสียฟอร์ม เธอจึงเก็บอาการสุดฤทธิ์ ภาพที่เห็นภายนอก จึงเป็นแค่ การ “ชำเลือง” ซ้าย ไปที่รถเข็นขายส้มตำ โกโรโกโส หาเช้ากินค่ำ เพราะเป็นตำแหน่งที่หนังสือเล่มที่ว่า วางอยู่

ก่อนจะเดินจากไป แบบ Slow motion โดยมีรถเข็นส้มตำเป็นแบล็กกราวน์

ป่วยการที่เธอจะคิดว่าหนังสือที่ว่านี้ ทำไม๊ ทำไม ถึงมาวางรวมกับอุปกรณ์คู่ชีพของแม่ค้า ช่างเข้ากันจัง

รู้แต่ว่า สะเทือนใจมั่ก กับแม่ค้าขายส้มตำ ผู้ไม่ยอมจำนนกับชีวิต

รถเข็น คือ สวรรค์บนภิภพของเขา (หือๆ) อยากร้องไห้ เธอนึก

สมองปะติดปะตอ ภาพรถเข็นที่เห็น กับ ข้อความบนปกหนังสือ

ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ค้า คิดได้อย่างเธอคนนี้ไหม

แต่ท่าทางตอนตำ เอาเป็นเอาตายมาก

และแล้วเธอก็ถึง “เส้นชัย” จนได้

1 ความคิดเห็น: